35 กรัม - โปรตีน 7. 68 กรัม - ไขมัน 15. 97 กรัม - 6. 99 กรัม - ไฟเบอร์ 2 กรัม - น้ำตาล 2. 97 กรัม - แคลเซียม 13 มิลลิกรัม - ธาตุเหล็ก 0. 61 มิลลิกรัม - แมกนีเซียม 51 มิลลิกรัม - ฟอสฟอรัส 101 มิลลิกรัม - โพแทสเซียม 239 มิลลิกรัม - โซเดียม 65 มิลลิกรัม - สังกะสี 0. 89 มิลลิกรัม - วิตามินบี 1 (ไทอามีน) 0. 038 มิลลิกรัม - วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0. 035 มิลลิกรัม - วิตามินบี 3(ไนอะซิน) 4. 38 มิลลิกรัม - วิตามินบี 6 0. 144 มิลลิกรัม - โฟเลต 29 ไมโครกรัม - วิตามินอี 2. 9 มิลลิกรัม ทั้งนี้ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีอย่างเหลือล้นจึงทำให้เนยถั่วมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่ 1. อุดมด้วยไขมันดี เนยถั่วและถั่วลิสงถือเป็นอาหารที่มีไขมันสูง แต่ไขมันที่อยู่ในอาหารชนิดนี้กลับเป็นไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกายแบบสุด ๆ เพราะเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โดยในเนยถั่วเพียง 2 ช้อนโต๊ะก็มีไขมันชนิดนี้ถึง 16 กรัม การรับประทานอาหารที่มีไขมันชนิดนี้เป็นประจำจะช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ยืนยาวและลดความเสี่ยงโรคร้ายได้เพียบเลยล่ะ 2. โพแทสเซียมสูง โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่ช่วยรักษาสมดุลของเหลวในร่างกายซึ่งถือเป็นคู่ปรับสำคัญของโซเดียมเลยทีเดียว นอกจากจะช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติแล้ว ก็ยังดีกับสุขภาพหัวใจอีก ซึ่งเจ้าสารอาหารชนิดนี้สามารถหาได้แบบจัดเต็มในเนยถั่วเลยล่ะ เพราะเนยถั่ว 100 กรัม มีโพแทสเซียมถึง 70 มิลลิกรัมเลยเชียว ดีแบบนี้ไม่หามารับประทานเสียดายแย่ 3.
นำถั่วลิสงคั่วไปปั่นในเครื่องปั่นอาหารแห้งจนละเอียดเป็นผง • 2. นำถั่วบดออกมาใส่ครก เติมน้ำผึ้ง (ปรับความหวานชิมตามชอบ) และน้ำมันมะกอก (ค่อย ๆ เติม ทีละน้อยถึงน้อยที่สุด) โขลกผสมให้เข้ากัน • 3. นำส่วนผสมใส่เครื่องปั่น ปั่นจะเนียนเข้ากันดี และหมั่นคอยใช้ช้อนกด ๆ จนเข้าเนื้อดี • 4. นำออกจากเครื่องปั่น ค่อย ๆ เติมน้ำร้อนลงไปทีละนิดแล้วคนให้เข้ากันจนข้นเป็นครีม เทใส่กระปุกเก็บในตู้เย็น • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนยถั่วคลีน +++++++++++++++++++ 2. เนยถั่วคลีน (สูตรไม่หวาน) สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบความหวานเท่าไร ขอแนะนำเนยถั่วคลีนจาก คุณ Angelisa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้มีส่วนผสมแค่ 2 อย่าง คือ ถั่วลิสงอบกับน้ำมันมะกอก เอามากินเปล่า ๆ ก็อร่อยดีเหมือนกันนะคะ ได้รสชาติถั่วเน้น ๆ ส่วนผสม เนยถั่วคลีน • ถั่วลิสงอบ • น้ำมันมะกอก วิธีทำเนยถั่วคลีน • 1. นำถั่วลิสงไปปั่นจนละเอียด เติมน้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อยแล้วปั่นจนเหนียว • 2. จากนั้นเทเก็บใส่กระปุก ก็จะได้เนยถั่วคลีนไว้กินแล้ว • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนยถั่วคลีน ++++++++++++++++++++ 3. เนยถั่วคลีน (สูตรใส่น้ำผึ้ง) เนยถั่วคลีนสูตรนี้มาส่วนผสมแค่ 3 อย่างเท่านั้น จาก คุณ kaataii2 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใส่น้ำมันมะกอกและน้ำผึ้งลงไปปั่นรวมกับถั่วลิสงอบ ชอบหวานมากหรือหวานน้อยก็จัดเลยค่ะ เนื้อจะเหนียวข้นหอมหวานมัน อร่อยไร้ที่ติ ส่วนผสม เนยถั่วคลีน • ถั่วลิสงอบ • น้ำมันมะกอก • น้ำผึ้ง วิธีทำเนยถั่วคลีน • 1.
1 มาการีนสำหรับทำเค้ก คุกกี้ หรือเอแคลร์ มีคุณสมบัติในการตีขึ้นฟูได้ดีได้เนื้อขนมมาก และฟูเบา 2. 2 มาการีนสำหรับทำพายชั้น เดนิช เพสตรีและครัวซองค์ เป็นมาการีนที่มีจุดหลอมเหลวสูง มีคุณสมบัติที่เรียกว่า พลาสติซิตี้ คือ มีความเหนียวรีดคลึงได้ง่าย และทำให้ชั้นของแป้งสูงขึ้น 2. 3 มาร์การีนชนิดอ่อน (Table margarine) มีความอ่อนตัวสามารถตักทาบนขนมปังได้ มีกลิ่นและสีคล้ายเนยสด และสามารถละลายได้ง่ายในปาก 3. เนยขาว (Shortening) เนยขาวมีลักษณะเป็นครีมสีขาว ทำจากน้ำมันพืชบริสุทธิ์ ไม่มีกลิ่น เช่น น้ำมันปาล์ม, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น โดยนำมาผ่านขบวนการเติมไฮโครเจน ทำให้ไขมันแข็งตัวยิ่งขึ้น และไม่ได้มีการเติมกลิ่น สี ใด ๆ เนยขาวจึงเป็นไขมันล้วน ๆ 100% มีขายทั้งแบบกระป๋องหรือแบ่งขายเป็นกิโลกรัม เนยขาว ไม่มีกลิ่นและรส เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง มีความคงตัวดี ตีแล้วขึ้นฟูไม่เหลว มักใช้ในการทำขนมปังโรล และผลิตภัณฑ์ยีสต์ ใช้ทาถาดพิมพ์สำหรับอบ เพื่อไม่ให้ขนมติดพิมพ์เมื่ออบสุก หรือใช้ผสมกับเนยสดเพื่อตีเป็นครีมแต่งหน้าเค้ก เนยขาวที่ใช้สำหรับทำเบเกอรี่ แบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้ 3. 1 ชอร์ตเทนนิ่งสำหรับทำครีม มีคุณสมบัติเด่นในการตีให้ขึ้นฟูได้เร็ว ได้ครีมที่ฟูเบา มีสีขาว ไม่มีกลิ่นและรส มักใช้ทำบัตเตอร์ครีมแต่งหน้าเค้ก หรือคัพเค้ก 3.
นำถั่วลิสงไปอบให้สุก จากนั้นนำไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียดเท่าที่เครื่องจะสามารถทำได้ • 2. ค่อย ๆ ใส่น้ำมันมะกอกลงไปเพื่อเพิ่มความหนืด อย่าให้มากเกินจะเยิ้ม • 3. เติมรสด้วยน้ำผึ้ง กวน ๆ บด ๆ จนเข้ากันดี น้ำผึ้งก็ใส่แต่พอดี ให้มีรสชาติก็พอ เทใส่กระปุกเก็บในตู้เย็น • ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เนยถั่วคลีน ++++++++++++++++++++ 4. เนยถั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และแมคคาเดเมีย ใครที่ชอบกินเม็ดเมล็ดมะม่วงหิมพานต์เปล่า ๆ น่าจะต้องชอบสูตรเนยถั่วคลีนสูตรนี้ เพราะเราจะจับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์มาผสมกับแมคคาเดเมีย เติมความหอมและหวานด้วยน้ำเชื่อมเมเปิลให้พอมีรสชาติหวานเบา ๆ แถมยังได้กลิ่นหอมจากวานิลลาด้วย อาจจะคลีนน้อยกว่าสูตรอื่น แต่แครอลียังต่ำอยู่ดี ส่วนผสมเนยถั่วเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และแมคคาเดเมีย • แมคคาเดเมียอบสุก 2 ถ้วยตวง • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก 1 ถ้วยตวง • เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม • น้ำเชื่อมเมเปิล 3 ช้อนโต๊ะ • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา • ผงวานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำ • 1. นำแมคคาเดเมียและเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม • 2. ใส่เนยสด น้ำเชื่อมเมเปิล เกลือป่น และผงวานิลลา ปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง ใช้พายไม้คนให้เข้ากัน ตักใส่ขวดโหลเก็บไว้รับประทาน จัดเสิร์ฟพร้อมขนมปังแครกเกอร์ อิ่มอร่อยรับอรุณยามเช้ากับ 4 วิธีทำเนยถั่วคลีน จะกินเปล่า ๆ ก็เพลินดี จับมาทาขนมปัง จิ้มกับผลไม้ ราดสลัด หรือจะจับมาทำเครื่องดื่มอย่างสมูทตี้ก็เก๋ กินเป็นอาหารลดน้ำหนัก หรืออาหารคลีนก็ได้ ถ้ากินไม่หมดก็แช่ตู้เย็นไว้ เก็บได้นานเลยค่ะคุณขา ทำกินเองควบคุมวัตถุดิบเอง และยังทำง่าย ๆ อีกด้วย แบบนี้ถ้าพลาดไปเสียดายแย่เลย จริง ๆ นะคะ เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เนยทำมาจากนมสดและน้ำมันพืช เป็นส่วนผสมที่ใช้ในขนมอบทุกชนิด ชนิดของไขมันต่าง ๆ มีดังนี้ 1.
"เนยถั่ว" (Peanut Butter) กระบวนการผลิตมาจากถั่วลิสงคั่วหรืออบ แล้วนำไปบดให้ละเอียด จนได้เป็นเนยถั่วเนื้อเนียน บางสูตรอาจผสมกับน้ำมัน เช่น น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันพืช สารให้ความหวาน เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง และเกลือเล็กน้อย ซึ่งส่วนผสมในการทำเนยถั่วนั้นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสูตร คุณค่าของ "เนยถั่ว" เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 32 กรัม) ให้พลังงาน 188 กิโลแคลอรี่ และมีคุณค่าทางโภชนาการ กล่าวคือ โปรตีน 7. 02 กรัม ไขมันทั้งหมด 16 กรัม (21% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), กรดไขมันอิ่มตัว 3 กรัม (15% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), คาร์โบไฮเดรต 7. 7 กรัม (3% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), ไฟเบอร์ 1. 8 กรัม (6% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), สังกะสี หรือซิงก์ 0. 85 มิลลิกรัม (7. 7% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน 4. 21 มิลลิกรัม- "เนยถั่ว" 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 32 กรัม) ยังมี วิตามินบี 6 0. 17กรัม (14% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน), แมกนีเซียม 57 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 107 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม 200 กรัม, น้ำตาล 2.
ส่วนผสมมีแต่อัลมอนด์ล้วนๆเลย texture ยังเป็นเม็ดบดๆอยู่เลยคะ อร่อยมากเพราะ crunchy! แต่จะ spread ยากกว่า มักจะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ขนมปังนุ่มๆของเราเป็นรูขาด 555 ลองหาใน FB or IG: Mr. Yummies นะคะ หรือไปร้านใบเมี่ยงก็มีนะ! 😀 Source:
ฟักทองบด (Pumpkin purée) ที่มาภาพ: foodal อุดมวิตามิน A ดีกับระบบภูมิคุ้มกัน 8. กล้วยบด (Mashed Banana) ที่มาภาพจาก: rstcry อุดมวิตามิน B-6 และ C ไขมันต่ำ มีรสหวานธรรมชาติ 9. ซอสแอปเปิ้ล (Applesauce) ที่มาภาพจาก: doctoroz ลดปริมาณแคลอรีในอาหาร ให้รสหวานธรรมชาติในขนม อ้างอิงที่มาจาก: Medical News Today Health line About Kantarat [Literature - Cat - Tree] a simple homebody person who loves to seek joy in every common thing