ก. / ไร่) - ปุ๋ยแต่งหน้า เลือกใช้ปุ๋ยยูเรีย 5 นางฟ้าทรงฉัตรสูตร 30-0-0 ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์** ในอัตราส่วน 1: 1 ( ปริมาณรวม 50 ก. / ไร่) ในดินนาที่เป็นดินทราย ดินร่วนทราย ดินทรายร่วน - ปุ๋ยรองพื้นก่อนปักดำ /หว่าน ใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 5 นางฟ้าทรงฉัตร ซึ่งใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์** ในอัตราส่วน 1: 1 ( ปริมาณรวม 50 ก. / ไร่) - ปุ๋ยแต่งหน้า ยูเรียตรา 5 นางฟ้าทรงฉัตร สูตร 30-0-0 ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์** ในอัตราส่วน 1: 1 ( ปริมาณรวม 50 ก. / ไร่)
ระยะข้าวงอก ถึงระยะกล้า หลังจากหว่านแล้ว ข้าวจะใช้อาหารที่สะสมในเมล็ดตั้งแต่ข้าวเริ่มงอก จนถึงต้นกล้าอายุ 14-20 วัน 2. ระยะกล้า ต้นข้าวจะเริ่มใช้อาหารจากดิน โดยดูดธาตุอาหารผ่านราก คำแนะนำใส่ปุ๋ยให้ใส่ธาตุอาหารครบทั้ง 3 ธาตุ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และ โพแทสเซียม (K) ให้ใส่พร้อมกัน 3. ระยะแตกกอ เป็นระยะที่ข้าวสร้างหน่อใหม่ หลังจากข้าวตั้งตัวได้ นาหว่านจะเห็นหน่อใหม่หลังใส่ปุ๋ยครั้งแรก 7-10 วัน นาปักดำ หลังข้าวตั้งตัวหรือหลังปักดำ 7-10 วัน ระยะนี้ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (N) (อัตรา 5 – 7 กิโลกรัมต่อไร่) อีกครั้ง เพื่อให้ข้าวแตกหน่อใหม่ที่แข็งแรงและสมบูรณ์ 4. ระยะข้าวสร้างรวงอ่อน หรือ กำเนิดช่อดอก เป็นระยะที่สำคัญ ช่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว 2 เดือน หรือ 60 วัน ข้าวจำเป็นต้องใช้อาหารเพื่อสร้างรวงให้สมบูรณ์แข็งแรง มีจำนวนเมล็ดต่อรวงมาก แนะนำให้ใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (N) (อัตรา 5 – 7 กิโลกรัมต่อไร่) อีกครั้ง 5. ระยะข้าวตั้งท้อง เป็นระยะที่ข้าวกำลังจะออกรวงนับวันหลังจากระยะสร้างรวงอ่อน 5-7 วัน ลำต้นข้าวจะเปลี่ยนจากลักษณะแบน เป็นต้นกลม อวบ ระยะนี้ โดยทั่วไปข้าวจะมีการสะสมอาหารไว้ในลำต้นของแต่ละหน่อแล้ว ต้นข้าวสามารถดึงธาตุอาหารมาใช้ในการเจริญเติบโตของรวงได้ บางครั้งสำหรับพันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง ที่มีการแตกกอมาก อาหารที่สะสมไว้อาจไม่เพียงพอ ระยะข้าวตั้งท้องแนะนำให้ใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (N) (อัตรา 5 – 7 กิโลกรัมต่อไร่) อีกครั้ง 6.
สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 9 ประกอบด้วยหน่วยงาน 5 ส่วน/ ฝ่าย และ 5 สถานีพัฒนาที่ดิน ดังนี้ 1. ฝ่ายบริหารทั่วไป - งานธุรการ งานการเงิน บัญชีและพัสดุ - จัดทำแผนงาน งบประมาณประจำปี ควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ในกอง - งานบริหารงานบุคคลและงานประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน - จัดทำทะเบียนวิจัย และรวบรวมผลงานวิจัยของเขต 2. ส่วนวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ดิน - ศึกษา วิจัย ทดสอบ และสาธิตการพัฒนาที่ดิน - ร่วมกับกองส่วนกลางในการปฏิบัติงานวิจัยแบบบูรณาการ การจัดอบรม เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และการจัดนิทรรศการ - ผลิต ทดสอบ และควบคุมคุณภาพพันธุ์พืชเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ - ให้คำปรึกษาแนะนำทางวิชาการแก่ฝ่ายปฏิบัติงานของสถานีพัฒนาที่ดิน 3. ส่วนวางแผนเพื่อการใช้ที่ดิน - สำรวจจำแนกดินอย่างละเอียด - สำรวจวิเคราะห์ข้อมูลสภาวะเศรษฐกิจและสังคม - วางแผนการใช้ที่ดินระดับไร่นา - ร่วมจัดทำแผนพัฒนาทรัพยากรระดับตำบล 4. ฝ่ายสำรวจเพื่อทำแผนที่ - สำรวจและจำทำแผนที่ระดับขอบเขตและการถือครองที่ดินอย่างละเอียด เพื่อใช้ในการวางแผนการใช้ที่ดินระดับไร่นา 5. ส่วนวิเคราะห์ดิน - วิเคราะห์ดิน น้ำ พืช สิ่งที่เกี่ยวข้องกับดิน และประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน - ให้บริการวิเคราะห์ดินหน่วยงานของ สพข.
ส่วนราชการอื่น เกษตรกร และเอกชน 6. สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร มีหน้าที่ปฏิบัติการในด้านการพัฒนาที่ดิน การสาธิต การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร และการเผยแพร่กิจกรรมของงานพัฒนาที่ดินในเขตจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาที่ดินในระดับอำเภอ 7. สถานีพัฒนาที่ดินตาก มีหน้าที่ปฏิบัติการในด้านการพัฒนาที่ดิน การสาธิต การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร และการเผยแพร่กิจกรรมของงานพัฒนาที่ดินในเขตจังหวัดตาก พร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาที่ดินในระดับอำเภอ 8. สถานีพัฒนาที่ดินนครสวรรค์ มีหน้าที่ปฏิบัติการในด้านการพัฒนาที่ดิน การสาธิต การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร และการเผยแพร่กิจกรรมของงานพัฒนาที่ดินในเขตจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาที่ดินในระดับอำเภอ 9. สถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย มีหน้าที่ปฏิบัติการในด้านการพัฒนาที่ดิน การสาธิต การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร และการเผยแพร่กิจกรรมของงานพัฒนาที่ดินในเขตจังหวัดสุโขทัย พร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาที่ดินในระดับอำเภอ 10. สถานีพัฒนาที่ดินอุทัยธานี มีหน้าที่ปฏิบัติการในด้านการพัฒนาที่ดิน การสาธิต การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร และการเผยแพร่กิจกรรมของงานพัฒนาที่ดินในเขตจังหวัดอุทัยธานี พร้อมทั้งควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาที่ดินในระดับอำเภอ Copyright ©2017 สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 9 เลขที่ 201/1 ถนนริมแม่น้ำ ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ รหัสไปรษณีย์ 60000 โทรศัพท์ 056-881242 โทรสาร 056-881241 E-mail Address:, ดินมีปัญหา ปรึกษากรมพัฒนาที่ดิน สายด่วน 1760
/ไร่ หรือหากความถี่มากกว่านั้นให้ลดปริมาณปุ๋ยในการใส่แต่ละครั้งพร้อมหว่านให้เท่า ๆ กัน การแบ่งใส่ปุ๋ยในแต่ระยะ จะช่วยให้ข้าวได้รับธาตุอาหารอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะระยะสร้างใบธง เพราะใบธงมีส่วนในการกักเก็บอาหารซึ่งจะส่งลำเลียงไปยังเมล็ดหรือรวง ส่งผลให้ข้าวมีน้ำหนักเมล็ดเต็มสมบูรณ์ ปุ๋ยตรามงกุฎ ปุ๋ยขยันทำงานทุกเม็ด นิยมทั่วไทย
00 น. โดยประมาณ \"ไออาร์ไอ ดินพลิกขีวิต\" ดินพลิกชีวิต แก้ปัญหาดินเปรี้ยว แก้ปัญหาดินเค็ม แก้ปัญหาดินเน่า ปัญหาน้ำเปรี้ยว ปัญหาน้ำเค็ม ปัญหาน้ำเน่า พาชม: พืชที่ใช้วิธีแก้ใบเหลือง แก้ดินเค็มแบบด่วนจี๋ ไม่ต้องหมัก ทำแล้วเห็นผลจริง ใครพืขใบเหลือง มาก ไม่สวย ไม่โต ดินอาจเค็ม วันนี้พามาแก้ปัญหากันค่ะ ทำตามได้เลย นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่CRYPTO Articles compiled by Cheerthaipower. See more articles in category: CRYPTO
ศูนย์ปฏิบัติการข่าวเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 465345 ข้าว เป็นพืชเศรษฐกิจและเป็นอาหารหลักที่สำคัญของประเทศไทย แต่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของข้าวยังต่ำมาก แนวคิด ที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ให้สูงขึ้นจากไร่ละ 380 – 460 กก. / ไร่ เป็นไร่ละ 960 – 1, 000 กก. / ไร่ สามารถทำได้ดังนี้ 1. ข้าว 1 เมล็ดมีน้ำหนัก 0. 027 – 0. 030 กรัม. ต้องการข้าว หรือ 1, 000, 000 กรัม จะต้องมีเมล็ดข้าว 1, 000, 000 0. 030 = 33, 333, 333 เมล็ด / ไร่ 2. 1 รวงมีเมล็ดดีประมาณ 100 เมล็ด ต้องการข้าว จะต้องมีรวงข้าว 33, 333, 333 /100 = 333, 333 รวง / ไร่ 208 รวง / ตรม. 3. ปกติเกษตรกรจะปักดำข้าวระยะ 25x25 ซม. จะมีต้นข้าว 16 กอ / ตรม. ข้าวแตกกอ 5-6 รวง จะได้รวงข้าว 80-96 รวง / ตรม จะได้ผลผลิตประมาณ 384 – 460 กก. / ไร่ วิธีการเพิ่มผลผลิต 1. ปักดำให้ถี่ขึ้นระยะ 20x20 ซม. เพื่อให้ได้ต้นข้าว 25 กอ / ตรม. 2. เร่งปุ๋ยตามคำแนะนำ GAP ให้ได้เนื้อปุ๋ยตามที่ข้าวต้องการ ( ข่าวเกษตร: งานข้าว: ฉบับที่ 3) เพื่อให้ข้าวแตกกอมากประมาณ 8 รวง / กอ จะมีรวงข้าว 200 รวง / ตรม. 3. ใส่ปุ๋ยแต่งหน้า ตามคำแนะนำ GAP บำรุงเมล็ดในรวงข้าวให้ได้ 100 เมล็ดดี / รวง 960 กก.
๑ ให้ผลิตผลสูง เมื่อปลูกในฤดูนาปรัง โดยจะเริ่มปลูกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่จะให้ผลิตผลต่ำ ถ้าเริ่มปลูกในเดือนธันวาคม ๔.
เมื่อวันพุธที่แล้ว พูดว่าเรากำลังเสียแชมป์การส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก และที่ผ่านมา ที่ไทยครองแชมป์ส่งข้าวออกไปยังตลาดโลกมายาวนาน ก็เพราะประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวมากที่สุดนั่นเอง ไม่ใช่เพราะไทยเรามีศักยภาพในการปลูกข้าวที่ให้ผลผลิตสูง หากแต่ผลผลิตของเราอยู่อันดับท้ายๆ เฉลี่ยพื้นที่นา 1 ไร่ เราผลิตข้าวได้เพียง 461 กก. แต่จีนได้ไร่ 1, 054 กก. เวียดนามได้ละ 875 กก. และอินโดนีเซียได้ไร่ละ 774 กก. อันนี้ไม่ร่วมกับสหรัฐอเมริกาที่ปลูกข้าวส่งออกด้วย แม้ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว. พาณิชย์ จะยืนยันและมั่นใจว่า ไทยยังเป็นแชมป์ส่งออกไปตลาดโลก เพราะครึ่งปีหลังจะส่งออกถึง 5 ล้านตัน เฉลี่ยทั้งปีจะไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะส่งออกได้ถึง 9. 5 ล้านตัน ก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงคาดการณ์ แต่ที่ฝ่ายยืนยัน ณ วินาทีนี้ไทยส่งออกข้าวน่าจะตกอยู่อันดับ 3 รองจากเวียดนาม และอินเดีย เพราะภาคการผลิตของเราต่ำนั่นเอง เห็นแล้วน่าห่วงครับ! ทั้งที่ความจริงบ้านเรานั้นอุดมสมบูรณ์ทั้งคุณภาพของดินและน้ำ ซึ่งในโอกาสนี้ผมมีข้อมูลที่ได้มากสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู แนะวิธีในการปลูกข้าว หรือทำนาให้มีผลผลิตสูงครับ เพียงของให้ชาวนาปฏิบัติคือ 1.