2564 จำนวน 1, 000 บาท – สัปดาห์ที่สอง วันจันทร์ที่ 31 พ. 2564 จำนวน 1, 000 บาท สำหรับเงินเยียวยาในโครงการ "ม.
รับเหมา/งานช่าง/ทำความสะอาด สินค้าสุขภาพ/การแพทย์ เช่น สถานพยาบาล(ไม่รับผู้ป่วยค้างคืน) กลุ่มบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ คลินิก ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับสิทธิในมาตรการ ม.
"ม. 33 เรารักกัน" รอบใหม่ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เตรียมรับเงินเยียวยา 2, 000 บาท เริ่ม 24 พ. ค. 64 สามารถใช้สิทธิได้ถึง 30 มิ. ย. 64 พร้อมเปิดวิธีเช็คสิทธิเงินเยียวยา หนึ่งมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลได้ออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ระลอกใหม่ คือ " ม. 33 เรารักกัน " เป็นการขยายความช่วยเหลือจากเดิมที่สิ้นสุดไปแล้ว ให้กับ ผู้ประกันตน มาตรา 33 ในระบบประกันสังคม โดยจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม. ) เมื่อวันที่ 5 พ. 2564 ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือประชาชนในการเพิ่มกำลังซื้อช่วง โควิด-19 ระลอกที่ 3 เป็นการเร่งด่วน ทั้งมาตรการ ม. 33 เรารักกัน และ เราชนะ สำหรับ ม. 33 เรารักกัน ครม. เพิ่มวงเงินเยียวยาให้ผู้ที่เคยได้สิทธิทั้งหมด 2, 000 บาทต่อราย และแบ่งจ่ายรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1, 000 บาท ทุกวันจันทร์ เข้าแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ หรือเข้าบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ภาพรวมทั้งโครงการ ครม. ได้เพิ่มวงเงินในโครงการอีก 1. 17 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมกลุ่มที่ได้รับสิทธิทั้งหมด 8. 11 ล้านคน ทั้งนี้กำหนด ไทม์ไลน์การโอนเงินเยียวยา ม. 33 เรารักกัน ดังนี้ – สัปดาห์แรก วันจันทร์ที่ 24 พ.
06 พ. ค. 2564 เวลา 0:10 น. 9. 4k ม33เรารักกัน ครม. ไฟเขียวเยียวยาผู้ประกันตนม. 33 รอบใหม่ ให้เพิ่มอีก 2, 000 บาท เช็กเงื่อนไข-คุณสมบัติ พร้อมขั้นตอนลงทะเบียนได้ที่นี่ โครงการ ม33เรารักกัน เป็นหนึ่งใน มาตรการเยียวยา ต่อเนื่องของรัฐบาลเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในระยะเร่งด่วนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) เมื่อวานนี้ 5 พฤษภาคม 2564 เห็นชอบให้เพิ่มเงินช่วยผู้ประกันตนโครงการ ม33เรารักกัน ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 9. 27 ล้านคน โดยเพิ่มวงเงินช่วยเหลือให้อีกสัปดาห์ละ 1, 000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และให้สิ้นสุดเวลาการใช้จ่ายในเดือน มิ. ย. 64 โดยกระทรวงแรงงานเตรียมนำเสนอโครงการ ม33เรารักกัน เข้าสู่การพิจารณาของครม. ในสัปดาห์หน้า สำหรับโครงการฯนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา 9. 27 ล้านคน ใช้วงเงินประมาณ 37, 100 ล้านบาท โดยรัฐบาลจ่ายเยียวยารายละ 4, 000 บาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการ โดยในส่วนของผู้ประกันตน มาตรา 33 จะมีการเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนในโครงการ ม. 33 เรารักกัน อีกสัปดาห์ละ 1, 000 บาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์นั้น วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับโครงการ ม. 33 เรารักกัน ว่า มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการ ม. 33 เรารักกัน รอบแรก ที่ได้รับวงเงินแล้ว 4, 000 บาทต่อคน จำนวนทั้งสิ้น 8. 11 ล้านคน โดย เรารักกัน รอบ 2 จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ กำหนดการโอนเงิน 2 รอบ รอบละ 1, 000 บาท – ครั้งที่ 1 วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1, 000 บาท – ครั้งที่ 2 วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 จำนวน 1, 000 บาท ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการครั้งก่อนอยู่แล้ว ระบบจะโอนเงินให้โดยอัตโนมัติ สามารถนำเงินไปจับจ่ายได้เลย ไม่ต้องกดยอมรับใด ๆ เพิ่มเติม ม. 33 เรารักกัน เฟส 2 ต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่ ส่วนโครงการในรอบที่ 2 นั้น ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิในรอบแรกแล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถรับวงเงินเข้าอัตโนมัติทันที โดยจะได้รับเงินเพิ่มอีกคนละ 2, 000 บาท (รวมเงินที่ได้รับ 2 รอบ 6, 000 บาท) โดยผู้ที่ได้รับสิทธิสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ส่วนผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนแบบสมาร์ตการ์ด นอกจากนี้ยังมีการขยายเวลาในการใช้จ่ายสินค้าจากเดิมวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเงินช่วยเหลือในรอบที่ 2 ขอขอบคุณที่มาจาก:สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
เปิดเงื่อนไข 9 กลุ่มอาชีพ ในพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ใครจะได้รับสิทธิ์เงินเยียวยารอบใหม่ 2, 500 บาท กับ 5, 000 บาท จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชนรอบใหม่ในกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจาก ประกาศ เคอร์ฟิว และ "ล็อกดาวน์ เฉพาะในพื้นที่ 10 จังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ สงขลา โดยจะมีรูปแบบการให้ความช่วยเหลือที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะต้องอยู่ใน 9 หมวดกิจกรรม หรือ 9 กลุ่มอาชีพ ดังนี้ 1. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 2. การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 3. การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ 4. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 5. กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ 6. ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร 7. การก่อสร้าง 8. กิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ 9. ศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ (ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่) ผู้ประกันตน หรือผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม 1.
ผู้ประกอบการในระบบ "ถุงเงิน" ใน 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้าน OTOP, ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าบริการ และ กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ในปัจจุบันที่ไม่มีลูกจ้าง ให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยรัฐบาลช่วยเหลือค่าใช้จ่าย 5, 000 บาทต่อคน สำหรับผู้ประกันตนม. 33 ลองเช็คกันหรือยัง (เงินเยียวยารอบใหม่) ถ้าได้รับสิทธิจะขึ้นได้รับสิทธิ ผู้ประกันตนม. 33 สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ คลิก
33 -เพิ่มวงเงิน 2, 000 บาท ให้แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จ่ายให้สัปดาห์ละ 1, 000 บาท ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ใช้จ่ายได้ถึง 30 มิถุนายน 2564 โครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 -สนับสนุนค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ กรกฎาคม-ธันวาคม 2564 โครงการ เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ -สนับสนุนค่าครองชีพให้เดือนละ 200 บาท/คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยมีประชาชนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 2.
กำหนดแทน 2. นายจ้าง มาตรา 33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะจ่ายให้ตามจำนวนลูกจ้าง 3, 000 บาทต่อคน สูงสุดไม่เกิน 200 คน 3. ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือคนละ 5, 000 บาท ผู้ที่อยู่นอกระบบประกันสังคม 4. ผู้ที่อยู่นอกระบบมาตรา 33 หรือเป็นอาชีพอิสระ จะต้องเตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคม ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 5, 000 บาท 5. ผู้ประกอบการ หรือ นายจ้าง ที่มีลูกจ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือ ดังนี้ นายจ้าง จะได้รับเงิน 3, 000 บาทต่อหัวลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ลูกจ้างสัญชาติไทย จะได้รับเงินช่วยเหลือ 2, 500 บาทต่อคน 6. ผู้ประกอบการที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่มีลูกจ้าง ให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 5, 000 บาท เยียวยาร้านค้ารายย่อย ถุงเงิน 7. ผู้ประกอบการในระบบ ถุงเงิน ใน 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้าน OTOP, ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าบริการ และ กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ในปัจจุบันที่มีลูกจ้าง ให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยรัฐจะช่วยจ่ายเงิน ดังนี้ นายจ้างได้รับเงิน 3, 000 บาทต่อลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ลูกจ้างสัญชาติไทย ได้รับเงินช่วยเหลือ 2, 500 บาทต่อคน 8.