เข้าสู่เดือนสุดท้ายแล้ว เพื่อนๆนักลงทุนวางแผนภาษีกันหรือยังครับ... กิจกรรมที่ผู้เสียภาษีอย่างเราทำกันมากในช่วงใกล้จะจ่ายภาษีนั้น คือ การมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี... เรามาดูว่ามีอะไรที่เราสามารถลดหย่อนภาษีกันได้บ้าง >> ตัวเองและครอบครัวก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ << 1. ส่วนตัว ลดหย่อนได้ 60, 000 บาท 2. คู่สมรส ลดหย่อนได้ 60, 000 บาท 3. บุตรที่ยังไม่เกิน 25 ปี ลดหย่อนได้ 30, 000 บาท/คน ** ถ้าเกิดในปี 2561 ลดหย่อนได้ 60, 000 บาท 4. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร 60, 000 บาท 5. ค่าดูแลบิดา/มารดา คนละ 30, 000 บาท ** เงื่อนไขคือ บิดามารดาต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30, 000 บาท ต่อปี 6. ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูผู้พิการหรือคนทุพพลภาพ 60, 000 บาท/คน --------------------------------- >> ลงทุนในหุ้น กองทุน SSF หรือประกันก็นำมาลดหย่อนภาษี << == รวมกันต้องไม่เกิน 500, 000 บาท 1. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ไม่เกิน 200, 000 บาท (15% ของเงินได้) 2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ไม่เกิน 500, 000 บาท (30% ของเงินได้) 3. กองทุนรวมเพื่อการออม SSF ไม่เกิน 200, 000 บาท (30% ของเงินได้) 4. กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ ไม่เกิน 500, 000 บาท (15% ของเงินได้) 5.
ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60, 000 บาท 2. คู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ 60, 000 บาท 3. ค่าคลอดบุตร 60, 000 บาท 4. ค่าลดหย่อนบุตร 30, 000 บาท 5. บุตรคนต่อไปคนละ 30, 000 บาท 6. พ่อแม่ ( ต่อคน) 30, 000 บาท 7. อุปการะผู้พิการ 60, 000 บาท กลุ่มลดหย่อน "ประกันชีวิตและการลงทุนระยะยาว" * ( ข้อ 1บวก 2 รวมแล้วไม่เกิน100, 000 บาท) 1. ประกันชีวิต / ประกันสุขภาพ 100, 000 บาท 2. เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง 25, 000 บาท 3. เงินสมทบประกันสังคม 5, 850 บาท 4. ประกันสุขภาพพ่อ- แม่ 15, 000 บาท * ( ข้อ 5 -11 รวมกันไม่เกิน 500, 000บาท) 5. ประกันชีวิตแบบบำนาญ 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 200, 000 บาท 6. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ15% ของเงินได้ ไม่เกิน 500, 000 บาท 7. กบข. 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 500, 000 บาท 8. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน 15% ของเงินได้ 9. กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช. ) 13, 200 บาท 10. กองทุนรวมเพื่อการออม(SSF) 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200, 000 บาท 11. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500, 000 บาท 12. กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ ( SSFX) 200, 000 บาท กลุ่มลดหย่อนตาม "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" 1. ดอกเบี้ยบ้าน 100, 000 บาท 2.
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยเร็วและให้ประกาศการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม(10%)ไปก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไข พรบ. ฯ ให้เกิดความเป็นธรรม และสถานการณ์ของเศรษฐกิจจะดีขึ้นในส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดไป รัฐบาลต้องหารายได้มาชดเชยเพื่อองค์กรปกครองท้องถิ่นจะได้ทำงานดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้อย่างต่อเนื่อง จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการแก้ไขโดยด่วนที่สุด เพราะกำหนดการชำระหากไม่มีการขยาย จะต้องชำระให้แล้วเสร็จในเดือน้มษายน 2565 นี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ผู้ประกอบการคนหนึ่งในเขตท้องที่อ. สูงเม่นขอสงวนนาม กล่าวกับผู้สื่อข่าวปีนี้ได้รับหนังสือจากอบต. ที่ตนอาศัยอยู่มีโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ ให้ไปเสียภาษีในปีนี้ ถึงกับตกใจจะต้องเสียเป็นเงินถึงสี่พันกว่าบาททุกปีเสียประมาณ 800บาทจึงได้ไปติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้รับคำชี้แจงว่าทำตามพ. ร. บ. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ. ศ. 2562มาตรา 30และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดำเนินการตามพ. 2562ข้อ23 ไม่สามรถลดหย่อนการเสียภาษีมีทางเดียวคือ รัฐบาลต้องยกเลิก พ. ฉบับนี้หรือชะลอการใช้ไว้เท่านั้น ตนเองต้องจำยอมเมื่อรัฐบาลมัดมือชกออกมาเช่นนี้ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้ ผ่านกฏหมายฉบับนี้มาได้อย่างไรกัน