ปลาดอรี่หรือจะเรียกอีกอย่างว่า ปลาแพนกาเซีย ดอรี่ เป็นปลาตระกูลเดียวกับปลาสวายนะคะ มีประโยชน์เช่นเดียวกับปลาทั่วไปค่ะ เป็นปลาเนื้อนุ่ม ย่อยง่าย แถมแคลอรีต่ำ เหมาะกับการนำมาทำอาหารเพื่อสุขภาพเลยค่ะ เรามาบุกครัวดูวัตถุดิบของเมนู "สเต๊กปลาดอรี" น้ำจิ้มแจ่ว กันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง วัตถุดิบเมนู "สเต๊กปลาดอรี" น้ำจิ้มแจ่ว วัตถุดิบ 1. ปลาดอรี 200 กรัม 2. พริกไทยดำ ½ ช้อนชา 3. เกลือ Low Sodium ½ ช้อนชา 4. น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา 5. พริกป่น 1 ช้อนชา 6. น้ำปลา Low Sodium 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ 8. ข้าวคั่ว 1 ช้อนชา 9. ผักชีหั่นหยาบ 1 ต้น 10. ผักสลัดตามชอบ ( เครื่องเคียง) วิธีทำ STEP 1: หมักปลาดอรี - นำปลาดอรี่ที่เตรียมไว้ ล้างทำความสะอาด แล้วพักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ - นำเกลือ Low Sodium พริกไทยดำโขลกหยาบ ทาให้ทั่วปลาทั้ง 2 ด้านค่ะ ทิ้งไว้ 15 นาที STEP 2: จี่ปลา - นำปลาดอรีที่หมักไว้แล้ว จี่ลงบนกระทะเทฟล่อน ไฟกลางนะคะ วางแบบเบามือเลยค่ะไ ม่ใช้น้ำมันนะคะ เพราะหลังจากนำปลาดอรีลงจี่ จะมีน้ำออกมาจากเนื้อปลาอีกค่ะ - ในระหว่างนี้ ห้ามกลับปลานะคะ ดูจนแน่ใจว่าเนื้อปลาสุก ค่อยพลิกค่ะ - เมื่อเนื้อปลาสุกได้ที่ตามต้องการ ค่อย ๆ แซะกลับด้านอย่างระมัดระวังค่ะ เพราะปลาดอรีเนื้อนิ่มมากอาจจะหลุดขาดจากกันได้ค่ะ TIPS.
ต่อเนื้อ 450 กรัม ถ้าหมักเนื้อไว้ข้ามคืนได้จะดีที่สุด ถ้าในน้ำหมักมีส่วนผสมที่เป็นกรด แอลกอฮอล์ หรือเกลือ ก็อย่าหมักนานเกิน 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เนื้อเสียรสชาติได้ ถ้าหมักเนื้อด้วยน้ำผลไม้รสเปรี้ยว อย่างมะนาวหรือเลมอน ก็อย่าทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะน้ำหมักที่มีความเป็นกรดจะทำให้เนื้อเปลี่ยนสีได้ 3 โรยเกลือโคเชอร์ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) ใส่สเต็กทั้ง 2 ด้าน. เกลือจะขับรสตามธรรมชาติของสเต็กออกมา ช่วยให้สเต็กสุกเป็นสีน้ำตาลสวยเท่ากัน เกลือนี่แหละที่ทำให้ย่างสเต็กออกมาเป็นสีน้ำตาลดูน่ากิน [4] โรยเกลือแล้วทิ้งสเต็กไว้ข้ามคืน ถ้าอยากให้สเต็กออกมารสดีที่สุด และมีเวลาพอ ถ้าสเต็กหมักเกลือไว้ 40 นาทีก่อนปรุงสุก ก็จะได้รสพอประมาณ ถ้ากำลังเตรียมสเต็กพร้อมปรุง ให้โรยเกลือทันทีก่อนลงกระทะ จะช่วยให้สเต็กรสดีขึ้น แต่เนื้อก็จะไม่นุ่มเท่าหมักเกลือไว้ข้ามคืน หรือจะปรุงรสเพิ่มเติมด้วยพริกไทยดำ ผงกระเทียม หรือใบไทม์ก็ได้ 4 ให้สเต็กเท่าอุณหภูมิห้องแล้วค่อยลงกระทะ. เอาเนื้อออกจากตู้เย็น ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 30 - 60 นาที แล้วค่อยปรุงสุก เนื้อด้านในจะได้สุกทั่วกัน [5] โดยเฉพาะถ้าสเต็กชิ้นหนา ยิ่งต้องทำขั้นตอนนี้ 5 เคลือบก้นกระทะย่างเหล็กหล่อด้วยน้ำมันพืช แล้วตั้งไฟ 1 นาที.
คุณสามารถเสิร์ฟมันทั้งแบบร้อนๆ หลังจากที่ขึ้นจากกระทะได้เลย หรือคุณจะทิ้งให้มันเย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องก็ได้ อุ่นเครื่องบรอยเลอร์. เตรียมเครื่องบรอยเลอร์โดยฉีดสเปรย์น้ำมันลงไปที่ตะแกรงข้างในเล็กน้อย ให้บรอยเลอร์อุ่นเครื่องสัก 5 ถึง 10 นาที ถ้าเครื่องของคุณมีระดับความร้อน "สูง" และ "ต่ำ" ให้ตั้งความร้อนสูง การฉีดสเปรย์น้ำมันลงบนตะแกรงเป็นสิ่งที่ไม่ได้บังคับ แต่มันเป็นความคิดที่ดีเสมอ เนื่องจากสเปรย์น้ำมันจะทำให้ปลาทูน่าไม่ติดหนึบกับตะแกรง 2 นำปลาทูน่าลงไปในเครื่อง. วางปลาทูน่าให้เป็นระนาบเดียวกัน และวางให้ห่างกันเท่าๆ กัน อุ่นปลาทูน่า 3 นาทีต่อหนึ่งข้าง. [3] หลังจากผ่านไปแล้ว 3 นาที พลิกปลาทูน่าอีกข้างหนึ่งและเปิดเครื่องบรอยเลอร์ไว้อีก 3 นาที หรือจนกว่าเนื้อปลาจะสุก วางกระทะบรอยเลอร์ไว้เหนือตะแกรงประมาณ 4 นิ้ว (10ซม. ) จากตัวอุ่นความร้อนที่อยู่ข้างบน ปลาจะสุกแล้วก็เมื่อคุณสามารถใช้ส้อมจิ้มมันได้ แต่ปกติแล้วมันจะมีสีชมพูๆ ตรงกลาง คุณสามารถทิ้งปลาทูน่าไว้อีก1หรือ2นาที ถ้าคุณไม่อยากกินปลาที่มีสีชมพูตรงกลาง 4 เสิร์ฟทูน่าสเต็กเมื่อมันสุกแล้ว. พักให้เย็นลงเล็กน้อยสัก 2-3 นาที ก่อนที่จะเสิร์ฟหรือให้มันเย็นลงจนถึงระดับอุณหภูมิห้อง อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 450ºF (232ºC).
เอาปลายที่วัดอุณหภูมิอาหาร จิ้มเข้าไปตรงกลางเนื้อสเต็ก แล้วรอให้สเต็กอุณหภูมิห่างจากอุณหภูมิที่ต้องการประมาณ 5 องศา แล้วยกลงจากเตาได้เลย อย่ารอจนสเต็กร้อนถึงอุณหภูมิที่ต้องการ เพราะสเต็กจะยังสุกต่อหลังยกลงจากเตาแล้ว [10] 50 °C (120 °F) = Rare 55 °C (130 °F) = Medium rare 60 °C (140 °F) = Medium 65 °C (150 °F) = Medium well 70 °C (160 °F) = Well done ทดสอบโดยใช้นิ้ว แทนที่วัดอุณหภูมิอาหารก็ได้. แบมือ เอานิ้วกลางกับนิ้วโป้งมาแตะกัน แล้วใช้มือข้างที่ถนัดจิ้มเนินเนื้อด้านล่างของนิ้วโป้งดู แล้วใช้นิ้วเดิมจิ้มสเต็ก ว่าแน่นเท่าๆ กันหรือเปล่า ถ้าสัมผัสใกล้กันมาก แสดงว่าเป็นสเต็กแบบ medium rare! ส่วนอุณหภูมิอื่นๆ ให้เช็คตามต่อไปนี้ [11] Rare: เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาแตะกัน Medium: เอานิ้วนางกับนิ้วโป้งมาแตะกัน Well-done: เอานิ้วก้อยกับนิ้วโป้งมาแตะกัน เอาสเต็กออกจากกระทะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 - 15 นาที จะออกมาดีที่สุด. การพักสเต็กไว้ ก็เพื่อให้น้ำของเนื้อไม่ไหลออกเสียเปล่าตอนหั่น พักไว้จะทำให้สเต็กสุกต่ออีกหน่อย [12] ถ้ากลัวสเต็กเย็นชืด ให้ห่อฟอยล์ไว้ หรือเอาใส่เตาอบที่ใช้ไฟต่ำสุด หั่นสเต็กเป็นชิ้นบางๆ โดยหั่นขวางลายเนื้อ.
สิ่งที่น่าสนใจ
Video at ใครคิดว่าสเต๊กทำยาก ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่แล้วล่ะ เพราะวันนี้ พี่หมีจะชวนเพื่อน ๆ มาทำ "สเต๊กปลาแซลมอน" พร้อมวิธีทำ "ซอสทาร์ทาร์" ที่เอาไว้กินกับแซลมอนแล้วเข้ากั๊นเข้ากัน ซึ่งสูตรนี้รับรองว่าทำไม่ยาก แถมสามารถเอาไปต่อยอดทำขายได้อีกด้วย!