15 Apr 2022 สัญญาณอันตราย "นิ่วในไต" เจอให้ไว รีบรักษาก่อนไตพัง Categories: สุขภาพ 0 <<<<< ให้คะแนน (Give Heart) นิ่วในไต เป็นสาเหตุสำคัญของโรคที่เกี่ยวกับไต สามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ผู้ชายมีโอกาสพบได้มากกว่าผู้หญิง และช่วงวัยที่พบส่วนใหญ่คือ อายุ 30-40 ปี หากปล่อยทิ้งไว้นานไม่รีบรักษา อาจเกิดการติดเชื้อจนเนื้อไตเสีย เกิดอาการไตเสื่อมและไตวายเรื้อรังได้ในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์ รีบรักษาก่อนอาการรุนแรง นิ่วในไต คืออะไร? นพ.
นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุของการเกิดนิ่ว นิ่วเกิดจากผลึกและสิ่งแปลกปลอมที่มีการตกตะกอนเป็นก้อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ คือกรรมพันธุ์ อายุ เพศ อาหารที่รับประทาน ปริมาณน้ำที่ดื่ม ยาที่รับประทาน รวมถึงภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และความผิดปกติทางกายวิภาคของระบบทางเดินปัสสาวะ ตำแหน่งที่พบนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ พบได้ตั้งแต่ใน ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ อาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์? มีอาการปวดที่บริเวณบั้นเอวหรือบริเวณท้อง ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ่ว? มีปัสสาวะเป็นเลือด? มีปัสสาวะแสบ, ขัด, ปัสสาวะลำบาก? มีไข้? มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน? ปัสสาวะไม่ออก กรณีเป็นนิ่วบริเวณท่อปัสสาวะ?
การเอานิ่วออก ในกรณีที่ก้อนนิ่วมีขนาดเล็กมาก แพทย์อาจเริ่มจากการแนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายขับนิ่วออกมาเองตามธรรมชาติ แต่โดยทั่วไปแล้วการเอานิ่วออกสามารถทำได้ 3 วิธีดังต่อไปนี้ คือ a. การส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะ (Cystolitholapaxy) โดยแพทย์จะส่องกล้องเข้าไปในท่อปัสสาวะเพื่อขบนิ่วให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วให้หลุดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ b. การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy: ESWL) เป็นการใช้คลื่นเสียงทำให้เกิดแรงกระแทกที่ก้อนนิ่วจนก้อนนิ่วแตกเป็นชิ้นเล็กๆ และหลุดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ c. การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ หรือเป็นนิ่วเขากวางที่มีกิ่งก้านหลายกิ่งจนไม่สามารถเอาออกด้วยวิธีอื่นได้ 2.
แคลเซียม ก้อนนิ่วจากแคลเซียมเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด และส่วนมากแคลเซียมมักรวมกับออกซาเลต ซึ่งเป็นสารที่มักพบในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม ผักใบเขียว ถั่ว เต้าหู้ น้ำนม โซดา ชา เบียร์ กาแฟ เป็นต้น หรืออาจมีฟอสเฟต หรือกรดมาลิกมารวมกับแคลเซียมก็ได้ 2. กรดยูริก ก้อนนิ่วชนิดนี้พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบในผู้ป่วยโรคเกาท์ หรือผู้ป่วยที่กำลังเข้ารับการเคมีบำบัด โดยก้อนนิ่วจากกรดยูริกจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อปัสสาวะมีความเป็นกรดมากเกินไป 3. สตรูไวท์ เป็นนิ่วที่ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ ก้อนนิ่วชนิดนี้เป็นก้อนนิ่วที่เกิดจากการติดเชื้อที่ไต และอาจมีขนาดใหญ่จนไปขัดขวางการขับปัสสาวะ 4. ซีสทีน นิ่วชนิดนี้พบได้ไม่บ่อย สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศชายและเพศหญิงที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมของซีสทีน ซึ่งเป็นกรดที่เกิดขึ้นในร่างกายโดยธรรมชาติ แล้วเกิดการรั่วจากไตมายังปัสสาวะ อาการของโรคนิ่วในไต โดยปกติแล้วก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กมากๆ อาจหลุดออกไปพร้อมกับการขับปัสสาวะ โดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ อาการของนิ่วในไตอาจไม่ปรากฏให้เห็นจนกระทั่งก้อนนิ่วเริ่มเคลื่อนตัวไปรอบๆ ไตหรือไปยังท่อไต ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ตามมา 1.
โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่งโดยจะพบเป็นนิ่วในไตมากที่สุด รองลงมาเป็นนิ่วในทอไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และนิ่วในท่อปัสสาวะตามลำดับ ในประเทศไทยโรคนิ่วสามารถพบได้ทุกภาคของประเทศ โดยจะพบบ่อยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอุบัติการณ์ของโรคนิ่วจะพบว่าเกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง 2 – 3 เท่า สำหรับสาเหตุของการเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ จะเกิดหลายปัจจัย ได้แก่ 1. ความเข้มข้นของปัสสาวะ ถ้าหากดื่มน้ำน้อยหรือมีการเสียเหงื่อมากจะทำให้สารละลายที่ขับออกมา จากร่างกายทางปัสสาวะมีความเข้มข้นมาก และมีโอกาสที่จะตกตะกอนจับกันเป็นผลึกและเป็นก้อนนิ่วได้ 2. ความเป็นกรดด่างของปัสสาวะ ในบางภาวะที่ปัสสาวะมีความเป็นกรดมากจะทำให้ผลึกนิ่วบางชนิดก่อตัวขึ้นง่าย เช่น ผลึกนิ่วยูริค 3. การขับสารบางชนิดของร่างกายออกมาทางปัสสาวะมากเกินไป พบว่าในบางคนมีความผิดปกติในการขับสารบางอย่าง เช่น แคลเซียม, ออกซาเลต, ฟอสเฟตหรือกรดยูริค ถ้าหากขับออกมาในปัสสาวะมากจะทำให้เป็นนิ่วได้ง่าย 4. ภาวะการติดเชื้อบางชนิดในทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะกลุ่มแบคทีเรียที่สามารถผลิตสารยูเรียได้ จะทำให้เป็นนิ่วง่าย 5. มีภาวะที่ขัดขวางการไหลของปัสสาวะ เช่น มีการตีบแคบของกรวยไต, ท่อไต, ท่อปัสสาวะหรือมีต่อมลูกหมากโต จะทำให้ปัสสาวะไหลไม่คล่องคล้ายกับมีฝายกั้นน้ำหรือเขื่อนกั้นอยู่ และทำให้เกิดการตกตะกอนของสารในปัสสาวะจนก่อตัวเป็นก้อนนิ่วขึ้นได้ โดยทั่วไปชนิดของนิ่วจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1.